สมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทย-จีน จัดตั้งตามพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. 2509 และอยู่ในการควบคุมดูแลของสํานักงานทะเบียนสมาคมการค้าประจํากรุงเทพมหานคร 

ชื่อสมาคมภาษาไทย “สมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทย-จีน”

ภาษาอังกฤษ” Thai–China One Belt One Road Investment Trade Association”  

ภาษาจีนว่า ” 泰-中一带一路投资经貿总商会”  ภาษาจีนกลาง อ่านว่า  ไท จง  อี  ไต๋  อี  หลู่ โถว จือ จิง เม่า จ๋ง ซัง ฮุ่ย  

สมาคมฯ เชื่อมั่นว่า การร่วมมือกันอย่างสุจริตบนพื้นฐานความเข้าใจซึ่งกันและกัน จะนำไปสู่ความมั่นคงมั่นคงอย่างยั่งยื่น ซึ่งยุทธศาสตร์ ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt Road Initiative : BRI)’ หรือเส้นทางสายไหมใหม่ จะเริเริ่มโดยรัฐบาลจีน แต่เป็นยุทธศาสตร์โลกที่เชื่อมโยงเส้นทางการค้า เส้นทางวัฒนธรรมนะหว่างประเทศต่างๆทั่วโลก โดยเชื่อมโยงทั้งทางบกและทางทะเล

สมาคมฯ จึงช่วยประสานงานกับภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศไทยและประเทศจีน สำหรับผู้ประกอบการการค้า การลงทุน การศึกษาวิจัยพัฒนา และโอกาสธุรกิจของประเทศไทย ประเทศจีนและประเทศที่มีโอกาสบนเส้นทางสายไหมใหม่ One Belt One Road รวมทั้ง ข้อมูลข่าวสารที่อาจเป็นประโยชน์กับผู้เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายเพื่อความยั่งยืน

ช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจประเทศจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด GDP เพิ่มขึ้น 34 เท่าตัว ซึ่งปัจจุบันปริมาณสินค้าผลิตจากประเทศจีน คิดเป็นร้อยละ 25 ของปริมาณสินค้าทั่วโลก ประกอบกับจีนมีเทคโนโลยีด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งด้านการขนส่งและการก่อสร้างอื่นๆ เช่น รถไฟความเร็วสูง อาคารสูงที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ดังนั้น จีนจึงมีความพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีไปลงทุนในประเทศที่จีนวางยุทธศาสตร์ไว้ใน BRI ทั้ง 152 ประเทศ

คาดการณ์ว่า ภายในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) GDP ของจึนจะเพิ่มถึง 160,000 ล้านหยวน ประชากรคนจีนในวัยทำงานที่เกิดหลัง พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 430 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังซื้อและรสนิยมการบริโภคที่หลากหลาย ดังนั้น การผลิตสินค้าของโลกจะเปลี่ยนจากผลิตในประเทศจีน (Made in China) เป็นการผลิตเพื่อประเทศจีน (Made for China)  ซึ่งความท้าทายที่นักลงทุนจีนประสบในประเทศ BRII คือ ขาดข้อมูลในการตัดสินใจลงทุนต่างประเทศ ขาดข้อมูลความรู้ความเข้าใจในตลาดท้องถิ่น ขาดความรู้ด้านกฎหมายภายในของประเทศที่นักลงทุนสนใจ รวมถึง ความไม่แน่นอนของนโยบายและกฎหมายในประเทศนั้นๆ

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศบนเส้นทางสายไหมใหม่ซึ่งสามารถสร้างความร่วมมือและสร้างโอกาสรูปแบบต่างๆ ร่วมกับประเทศจีนและประเทศต่างๆ บนเส้นทางสายไหมใหม่ โดยเฉพาะกับประเทศจีน